โยโกฮาม่า ประเทศญี่ปุ่น (13 สิงคาคม 2563) – นิสสัน มอบอีกประสบการณ์ที่น่าประทับใจให้กับผู้ใช้รถยนต์ไฟฟ้า ด้วยการเสนอให้ลูกค้าสามารถจ่ายค่าที่จอดรถด้วยพลังงานไฟฟ้า

ครั้งแรกในโลกที่ผู้ขับขี่รถยนต์ไฟฟ้าจะสามารถส่งคืนพลังงานไฟฟ้าที่อยู่ในแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าของพวกเขา เพื่อใช้เป็นค่าที่จอดรถ ขณะไปเยี่ยมชม นิสสัน พาวิลเลี่ยน ซึ่งเป็นพื้นที่จัดแสดงนิทรรศการ ในเมือง  โยโกฮาม่า

ระบบการชำระค่าใช้จ่ายนี้เป็นเพียงหนึ่งในนวัตกรรมที่ลูกค้าสามารถสัมผัสได้จริงที่ นิสสัน พาวิลเลี่ยน  ซึ่งสร้างขึ้นเพื่อแสดงให้เห็นว่า นิสสันสามารถขับเคลื่อนผู้คนไปสู่โลกที่ดีขึ้นอย่างไร โดยผู้เข้าชมสามารถรับประทานอาหารพร้อมพักผ่อนใน นิสสัน ชายา คาเฟ่ (Nissan Chaya Café) ที่ใช้พลังงานไฟฟ้าจาก นิสสัน ลีฟ และพลังงานแสงอาทิตย์ ซึ่งพวกเขายังสามารถเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์แบบเสมือนจริงที่ให้ความรู้สึกตื่นเต้นของการแข่งรถแบบ Formula E หรือไปนั่งใน นิสสัน อริยะ ใหม่ รถยนต์ครอสโอเวอร์ไฟฟ้า 100%

บนพื้นที่กว่า 10,000 ตารางเมตร ของพาวิลเลี่ยนไร้มลพิษนี้ ติดตั้งแผงโซล่าเซลล์ และ ใช้พลังงานพลังน้ำที่หมุนเวียนได้ หรือ renewable hydroelectric power

“พาวิลเลี่ยน แห่งนี้จะเป็นสถานที่ ที่ทุกคนสามารถมองเห็น รู้สึก พร้อมได้รับแรงบันดาลใจจากวิสัยทัศน์ของเราในอนาคตอันใกล้สำหรับสังคมและการเคลื่อนที่ต่างๆ มาโกโตะ อูชิดะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร หรือ ซีอีโอ นิสสัน มอเตอร์ กล่าว “ขณะที่โลกกำลังเปลี่ยนสู่การเคลื่อนที่ด้วยพลังงานไฟฟ้า รถยนต์ไฟฟ้าหรือ EV จะถูกบูรณาการให้เข้ากับสังคมในรูปแบบที่นอกเหนือจากการใช้เพื่อการเดินทางขนส่งเพียงอย่างเดียว” อูชิดะ เสริม

พลังงานของนิสสัน

นิสสันเริ่มขาย นิสสัน ลีฟ รถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% ไร้มลพิษ ที่ทุกคนสามารถเป็นเจ้าของได้แบรนด์แรกของโลก ในปี 2010 ตั้งแต่นั้นมา นิสสันได้ร่วมมือกับภาครัฐ และภาคธุรกิจต่างๆ ทั่วโลกเพื่อส่งเสริมให้เกิดการใช้รถยนต์ไฟฟ้า นิสสัน เอนเนอร์จี แชร์ (Nissan Energy Share) และ นิสสัน เอนเนอร์จี   สตอเรจ (Nissan Energy Storage) ของ บริษัทฯ พัฒนาการเก็บรักษาพลังงานไฟฟ้าจากแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้า และแบ่งปัน สู่การใช้ประโยชน์ที่แตกต่างไปจากเดิม (repurposed) ตัวอย่างเช่น การจ่ายพลังงานสู่บ้านเรือน หรือ ธุรกิจ ดังเช่น ร้านกาแฟ ที่ตั้งอยู่ในนิสสัน พาวิลเลี่ยน

ในประเทศญี่ปุ่น นิสสันได้ทำข้อตกลงกับรัฐบาลท้องถิ่นเพื่อใช้รถยนต์ นิสสัน ลีฟ เป็นแบตเตอรี่สำรองที่สามารถจ่ายพลังงานในช่วงเกิดภัยพิบัติทางธรรมชาติ ในความร่วมมืออื่นๆ บริษัทฯ กำลังนำแบตเตอรี่ไฟฟ้า ที่ใช้แล้ว กลับมาใช้ใหม่กับ ระบบไฟส่องสว่างบนถนน

นี่เป็นส่วนหนึ่งของแผนการเปลี่ยนแปลงภายใต้ Nissan NEXT แผนของบริษัทที่จะขยายรุ่นของรถยนต์ไฟฟ้าและรวมถึง รถยนต์ที่ใช้มอเตอร์ไฟฟ้าในการขับเคลื่อน อาทิ เทคโนโลยี อี-เพาเวอร์ (e-POWER)  นิสสันตั้งเป้าที่จะขายรถยนต์ไฟฟ้า  รถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า รวมถึง อี-พาวเวอร์ ให้ได้มากกว่า 1 ล้านคันต่อปี ภายในสิ้นปีงบประมาณ 2566 อีกด้วย

นวัตกรรมของนิสสัน

ผู้เข้าชม นิสสัน พาวิลเลี่ยน สามารถสัมผัสกับนวัตกรรมอื่น ๆ นอกเหนือจากเทคโนโลยีของ Nissan Energy อาทิ ระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ขั้นสูง โปรไพลอต (ProPILOT) รวมถึง เทคโนโลยี Invisible-to-Visible (I2V) ของนิสสัน ที่เป็นการรวบรวมข้อมูลที่เกิดขึ้นจริงและจากโลกเสมือนจริงเพื่อช่วยเหลือผู้ขับขี่

นอกจากนี้ยังสามารถเล่นเทนนิสแบบเสมือนจริงกับนาโอมิ โอซาก้า แชมป์แกรนด์สแลม และ แบรนด์แอมบาสเดอร์ของนิสสัน ในเธียเตอร์ของ นิสสัน พาวิลเลี่ยน ผู้เข้าชมทั้งเด็กและผู้ใหญ่ยังสามารถเรียนรู้เกี่ยวกับ I2V ว่าเทคโนโลยีนี้จะทำให้การขับขี่สะดวก สบาย และน่าตื่นเต้น ยิ่งขึ้นได้อย่างไร เมื่อถูกติดตั้งในรถยนต์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้

ที่ด้านหน้าของนิสสัน พาวิลเลี่ยน จะมี Mobility Hub ที่สามารถให้บริการที่หลากหลายรวมถึง บริการรถยนต์พลังงานไฟฟ้าที่ใช้ร่วมกัน และจักรยานให้เช่า โดยนิสสัน และ ชุมชนในท้องถิ่น บริการเหล่านี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อให้ความอิสระในการเคลื่อนที่มากขึ้น

นิสสัน พาวิลเลี่ยน ตั้งอยู่ใกล้กับสำนักงานใหญ่ของนิสสัน ใน นครโยโกฮาม่า เปิดให้สาธารณชนเข้าชมได้ตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคมถึง 23 ตุลาคม สำหรับการเยี่ยมชมแบบเสมือนจริงสามารถรับชมได้ที่ https://www.thenissannext.com/en/virtual-tour.html

เกี่ยวกับ บริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด

นิสสัน ก่อตั้งในประเทศญี่ปุ่น ตั้งแต่ปี พ.ศ 2476 โดยมีนโยบายหลักที่จะนำเสนอนวัตกรรมที่สร้างความตื่นเต้นเร้าใจให้กับลูกค้า (Innovation that Excites) ทำให้ลูกค้าได้รับความสุขกับรถของนิสสัน ขณะเดียวกันนิสสันยังต้องการปรับปรุงคุณภาพชีวิตให้กับคนในสังคม โดยนิสสันได้ประกาศเป้าหมายในการมีส่วนร่วมลดค่ามลพิษให้เป็นศูนย์ และลดการสูญเสียบนท้องถนนให้เป็นศูนย์  นิสสันจึงมุ่งมั่นพัฒนาเทคโนโลยีการขับเคลื่อนที่อัจฉริยะ โดยมีแผนที่จะแนะนำระบบขับขี่อัตโนมัติ ในรถยนต์รุ่นหลักในภูมิภาคต่างๆ  เพื่อเพิ่มความปลอดภัยบนท้องถนนไปพร้อมๆ กับการสร้างความสุขให้กับผู้ขับขี่   สำหรับประเทศไทยนิสสันเริ่มดำเนินธุรกิจ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2495 ปัจจุบันมีบริษัทในเครือ 5 แห่ง และฐานการผลิตรถยนต์รวม 2 แห่ง   มีเครือข่ายโชว์รูมและศูนย์บริการมากกว่า 180 แห่ง โดยมีผลิตภัณฑ์รถยนต์ตอบสนองลูกค้าทุกเซกเมนต์รวม 12 รุ่น  ไม่ว่าจะเป็น รถยนต์อีโคคาร์  รถยนต์อเนกประสงค์ รถยนต์พรีเมี่ยมซีดาน  รถกระบะ และรถตู้  

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ การบริการ และความมุ่งมั่นในการนำเสนอยานยนต์เพื่อความยั่งยืน สามารถติดตามได้ที่ nissan-global.com, Facebook, Instagram, Twitter, LinkedIn และรับชมวีดีโอล่าสุดที่ YouTube

ข้อมูลเพิ่มเติม