(ลอนดอน สหราชอาณาจักร) – เร็วๆนี้ คริสและจูลี่ แรมซีย์ คู่สามีภรรยาชาวสกอตแลนด์ ลงแข่งขันในนามทีมปลั๊กอิน แอดแวนเจอร์ (Plug In Adventures) สามารถผ่านเข้าเส้นชัยการแข่งขันมองโกล แรลลี่ ณ เมืองอูลัน อูเด ประเทศรัสเซีย ถือเป็นรายแรกที่สามารถตะลุยผ่านเส้นทางข้ามทวีปที่ทุรกันดารด้วยรถยนต์นิสสัน ลีฟ ที่ได้รับการปรับแต่งให้เป็นแบบที่ขับได้ในทุกสภาวะ หรือ All-Terrain Electric Vehicle (AT-EV)

คริสและจูลี่ เริ่มต้นออกเดินทางจากสนามกู้ดวูด มอเตอร์ สหราชอาณาจักร เมื่อวันที่ 16 มิถุนายน ผ่านประเทศต่างๆ จำนวน 13 ประเทศ เป็นระยะทางรวมกว่า 12,800 กิโลเมตร ทั้งคู่ได้ทำการชาร์จแบตเตอรี่รถยนต์จำนวน 111 ครั้ง ก่อนจะเดินทางถึงเส้นชัยในประเทศรัสเซียทางตอนเหนือของเขตชายแดนมองโกเลีย โดยมีค่าใช้จ่ายในการชาร์จไฟไม่ถึง 100 ปอนด์ หรือคิดเป็นเงินไทยไม่เกินประมาณ 4,400 บาทเท่านั้น*

คริส แรมซีย์ กล่าวว่า “หลายคนเคยบอกผมว่า รถยนต์ไฟฟ้าไม่สามารถขับขี่ในระยะไกลได้ แต่ผมยืนยันได้ว่าไม่เป็นความจริงเลย หลังจากที่ได้เดินทางเป็นระยะทางมากกว่าหมื่นกิโลเมตรด้วยรถยนต์ไฟฟ้า เราแทบไม่พบปัญหาใดๆ  การเดินทางครั้งนี้ถือเป็นประสบการณ์ครั้งยิ่งใหญ่ในชีวิต และแทบไม่น่าเชื่อเลยว่าเรามาถึงเส้นชัยแล้ว เราเดินทางผ่านประเทศต่างๆ มากมายโดยอาศัยเพียงแบตเตอรี่ไฟฟ้าที่ไม่มีการปล่อยมลภาวะ ตอนนี้ผมภูมิใจ ปลาบปลื้ม  และมีความสุขที่สุด”

ตลอดเส้นทางในยุโรป คริสและจูลี่ใช้สามารถสถานีชาร์จที่สามารถชาร์จไฟฟ้าให้กับรถได้ 80% ในเวลาเพียงครึ่งชั่วโมง  แต่เมื่อพวกเขาเดินทางถึงบัลแกเรีย และประเทศที่อยู่เหนือขึ้นไป สถานีชาร์จมีจำนวนน้อยมาก ทำให้ต้องหันไปชาร์จไฟฟ้าจากที่อื่นๆ แทน เช่น โรงแรม ไปรษณีย์ สถานีตำรวจ และสถานีดับเพลิงในรัสเซีย มีครั้งหนึ่ง พวกเขาขอความช่วยเหลือจากช่างไฟฟ้าในการชาร์จแบตเตอรี่รถยนต์ โดยตรงกับเสาไฟฟ้ากลางป่าในไซบีเรีย

ระยะทางที่พวกเขาเดินทางได้ไกลที่สุดในการชาร์จแบตเตอรี่หนึ่งครั้ง คือ 185 กิโลเมตร โดยเหลือแบตเตอรี่ 6% ก่อนการชาร์จครั้งต่อไป โดยเฉลี่ยแล้วคริสและจูลี่จะเดินทางประมาณ 152 กิโลเมตร ระหว่างการชาร์จแต่ละครั้ง เพื่อให้แน่ใจว่าจะเหลือแบตเตอรี่สำรองไว้เพียงพอก่อนเดินทางถึงจุดชาร์จแบตเตอรี่จุดต่อไปหากจำเป็นต้องหาที่ชาร์จไฟทดแทน

ระหว่างการเดินทาง ทีมปลั๊กอิน แอดแวนเจอร์ พยายามเผยแพร่ประโยชน์ของการใช้รถยนต์ไฟฟ้า และทั้งรถยนต์ไฟฟ้าและเรื่องราวการเดินทางของพวกเขาได้รับความสนใจจากทุกประเทศที่เขาเดินทางไปถึง คริสได้รับเชิญไปร่วมงานอภิปรายใน the Astana International Exposition เพื่อทำให้แนวคิดเรื่องพลังงานแห่งอนาคตกลายเป็นความจริง โดยรถยนต์นิสสัน ลีฟ All-Terrain ก็ได้รับการนำไปจัดแสดงในงานอีกด้วย

###

 

เกี่ยวกับรถยนต์ นิสสัน ลีฟ AT-EV

รถยนต์ที่ทีมปลั๊กอิน แอดแวนเจอร์ใช้ในการแข่งขันคือรถยนต์นิสสัน ลีฟ Acenta รุ่นปี 2016 มีแบตเตอรีความจุขนาด 30 กิโลวัตต์ชั่วโมง สามารถเดินทางเป็นระยะ 250 กิโลเมตรต่อการชาร์จแบตเตอรี่หนึ่งครั้ง โดยได้รับการปรับแต่งเพื่อให้สามารถเดินทางไปในพื้นที่ต่างๆ ได้ไกลขึ้น

นิสสัน ลีฟ AT-EV ได้รับการปรับแต่งโดยใช้ล้อของ Speedline SL2 Marmora ที่เหมาะกับการขับขี่แบบออฟโรด พร้อมติดตั้งแผ่นป้องกันด้านล่างของบริเวณปีกนก สายเบรก แผ่นบังโคลน ทำให้ขับขี่ในเส้นทางท้าทายได้ดียิ่งขึ้น

ราวหลังคาด้านบนได้รับการปรับแต่งให้มีพื้นที่เก็บสัมภาระได้มากขึ้น พร้อมติดตั้งแผงไฟ LED Lazer Triple-R 16 ที่ช่วยให้แสงสว่าง 16,400 ลูเมน เมื่อเดินทางไปในพื้นที่ที่ห่างไกล

เนื่องจากไม่มีการจับเวลาในการแข่งขันมองโกลแรลลี่ ความสะดวกสบายในการขับขี่ทางไกลจึงเป็นสิ่งสำคัญ รถยนต์นิสสัน ลีฟ AT-EV จึงเน้นการลดน้ำหนักและเพิ่มพื้นที่  พื้นที่ด้านหน้าบริเวณคนขับและที่นั่งข้างคนขับยังคงเหมือนเดิม แต่ถอดเบาะด้านหลังออก ทำให้ลดน้ำหนักไปได้กว่า 32 กิโลกรัม และมีการเพิ่มอุปกรณ์ดับเพลิงและอุปกรณ์ปฐมพยาบาลเข้าไป

นิสสัน ลีฟ AT-EV ได้รับการปรับแต่งโดย RML Group ซึ่งเป็นบริษัทออกแบบยานยนต์ประสิทธิภาพสูงชั้นนำในสหราชอาณาจักร

 

เกี่ยวกับมองโกลแรลลี่

มองโกลแรลลี่ คือ รายการแข่งขันแรลลี่การกุศลที่มีระยะทาง 16,000 กิโลเมตร โดยผ่านภูมิประเทศที่มีทั้งภูเขา ทะเลทราย และที่ราบในทวีปยุโรปและเอเชีย  ได้รับการจัดขึ้นครั้งแรกในปี 2547 โดยทีม The Adventurists ซึ่งมีกฎว่าผู้เข้าการแข่งขันต้องใช้รถยนต์ที่มีเครื่องยนต์ขนาดไม่เกิน 1 ลิตร เพื่อเพิ่มความท้าทายและการทำความรู้จักกับท้องถิ่นที่เดินทางผ่านไป ผู้เข้าการแข่งขันจะไม่ได้รับการช่วยเหลือหรือมีแผนสำรองใดๆ และต้องแก้ปัญหาที่เจอระหว่างการแข่งขันด้วยตนเอง

ในปี 2560  The Adventurists สนับสนุนการตัดสินใจของคริสที่ต้องการเข้าร่วมการแข่งขันด้วยรถยนต์นิสสัน ลีฟ AT-EV ทำให้ลีฟ เป็นรถยนต์ไฟฟ้าคันแรกที่ได้เข้าร่วมการแข่งขันมอลโกลแรลลี่ พร้อมกับส่งเสริมความมุ่งมั่นด้านสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืนของ The Adventurists

####

 

ข้อมูลเพิ่มเติม:

กมลชนก เจริญจินดารัตน์

ฝ่ายสื่อสารองค์กร

บริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด

โทร. 02-339-3400 ต่อ 4112-4114 / โทรสาร 02-253-1022

www.nissan.co.th

 

เกี่ยวกับ บริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด

นิสสัน ก่อตั้งในประเทศญี่ปุ่น ตั้งแต่ปี พ.ศ 2476 โดยมีนโยบายหลักที่จะนำเสนอนวัตกรรมที่สร้างความตื่นเต้นเร้าใจให้กับลูกค้า (Innovation that Excites) ทำให้ลูกค้าได้มีความสุขกับการใช้รถของนิสสัน ขณะที่ในด้านสังคม นิสสันมุ่งการมีส่วนร่วมในการเพิ่มพูนความสุข และเพิ่มชีวิตชีวาให้กับคนในสังคม โดยนิสสันได้ประกาศเป้าหมายในการมีส่วนร่วมลดค่ามลพิษให้เป็นศูนย์ และลดการสูญเสียบนท้องถนนให้เป็นศูนย์  นิสสันจึงมุ่งมั่นพัฒนาเทคโนโลยีการเคลื่อนที่อัจฉริยะ โดยมีแผนที่จะแนะนำระบบขับขี่อัตโนมัติ ในรถยนต์รุ่นหลักในภูมิภาคต่างๆ  เพื่อเพิ่มความปลอดภัยบนท้องถนนไปพร้อมๆ กับการสร้างความสุขให้กับผู้ขับขี่   สำหรับประเทศไทยนิสสันเริ่มดำเนินธุรกิจ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2495 ปัจจุบันมีบริษัทในเครือ 5 แห่ง และฐานการผลิตรถยนต์รวม 2 แห่ง   มีเครือข่ายโชว์รูมและศูนย์บริการมากกว่า 200 แห่ง โดยมีผลิตภัณฑ์รถยนต์ตอบสนองลูกค้าทุกเซกเมนต์รวม 10 รุ่น  ไม่ว่าจะเป็น รถยนต์อีโค คาร์  รถยนต์อเนกประสงค์ รถยนต์พรีเมี่ยมซีดาน  รถกระบะ และรถตู้  

 

เกี่ยวกับ บริษัท นิสสัน มอเตอร์ จำกัด

นิสสัน เป็นผู้ผลิตรถยนต์ระดับโลกที่จำหน่ายรถยนต์มากกว่า 60 รุ่นภายใต้ยี่ห้อนิสสัน อินฟินิตี้ และดัทสัน ในปีงบประมาณ 2559 บริษัทฯ มียอดขายรถยนต์มากกว่า 5.63 ล้านคัน สร้างรายได้มูลค่า 11.72 ล้านล้านเยน โดยมี นิสสัน ลีฟ เป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่ขายดีที่สุดในประวัติศาสตร์ของโลก สำนักงานใหญ่ของนิสสันตั้งอยู่ที่เมืองโยโกฮามา ประเทศญี่ปุ่น แบ่งเขตปฏิบัติการออกเป็น 6 พื้นที่ ประกอบไปด้วย ญี่ปุ่น เอเชียและโอเชียเนีย แอฟริกา ตะวันออกกลางและอินเดีย จีน ยุโรป ละตินอเมริกา และอเมริกาเหนือ นิสสันมีพนักงานทั่วโลกจำนวน 247,500 คน ทั้งยังเป็นหุ้นส่วนทางธุรกิจกับ เรโนลต์ ผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติฝรั่งเศส ภายใต้พันธมิตร เรโนลต์ – นิสสัน ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2542 ในปี พ.ศ. 2559 นิสสันได้เข้าซื้อหุ้นเป็นจำนวน 34% จากมิตซูบิชิ จนได้เข้าร่วมพันธมิตรเป็นสมาชิกรายที่สาม และทั้งพันธมิตรมียอดขายรวมกันสูงระดับ 10 ล้านคันต่อปี

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ การบริการ และการขนส่งเพื่อความยั่งยืน สามารถติดตามข้อมูลข่าวสารผ่าน http://www.nissan-global.com/EN