สำหรับนายฮิโรชิ อิชิกูโร่ นักประดิษฐ์หุ่นยนต์และที่ปรึกษาด้านเทคโนโลยีของนิสสัน การตอบรับของ AI (Artificial Intelligence) หรือ ปัญญาประดิษฐ์จะดีแค่ไหนนั้นล้วนขึ้นอยู่กับสิ่งเดียวเท่านั้น: ว่าเครื่องจักรมีความเป็นมนุษย์มากแค่ไหน สำหรับนายอิชิกูโร่ หากปัญญาประดิษฐ์มีความเหมือนมนุษย์มากเท่าไหร่ ยิ่งง่ายต่อการยอมรับ ซึ่งนำพามาสู่สิ่งที่นายอิชิกูโร่เรียกว่า “natural interaction” (หรือปฎิสัมพันธ์แบบธรรมชาติ) ระหว่างมนุษย์และเครื่องจักร

Hiroshi Ishiguro at the 2019 CES event in Las Vegas

ในงาน CES ที่ลาสเวกัส นายอิชิกูโร่ ได้กล่าวนำเสนอเทคโนโลยียานยนต์ใหม่จากนิสสัน เชามาพร้อมกับผมยุ่งฟู และลักษณะที่ผ่อนคลายเป็นกันเอง ซึ่งต่างจากผู้บริหารธุรกิจยานยนต์คนอื่นๆ เขามาทำอะไรที่นั่น? และนิสสันจ้างเขาเพื่อทำอะไร? “การสร้างคอนเซปต์” นายอิชิกูโร่กล่าวโดยไม่ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติม ในการแข่งขันของเทคโนโลยีที่มีความลับสูง จึงไม่น่าสงสัยเลยว่าทำไมนายอิชิกูโร่ถึงไม่ยอมกล่าวอะไร แต่เราควรทำความรู้จักกันนายอิชิกูโร่เพิ่มเติม ว่าทำไมนิสสันถึงต้องจ้างเขามา

 

นักออกแบบหุ่นยนต์ ผู้เชี่ยวชาญทางด้านแอนดรอยด์ และศิลปิน

Hiroshi Ishiguro

การสร้างชีวิตให้สิ่งไม่มีชีวิตนั้นเป็นความสามารถเฉพาะทาง มีแค่กลุ่มนักประดิษฐ์/ผู้นำระดับสูงในสาขางานที่เล็กแต่มีความสำคัญเช่นนี้ นายอิชิกูโร่ก็เป็นหนึ่งในนั้น เขาคือผู้อำนวยการห้องปฎิบัติการหุ่นยนต์อัจฉริยะ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของภาควิชาระบบนวัตกรรมในบัณฑิตวิทยาศาสตร์ คณะวิศวกรรมศาสตร์มหาวิทยาลัยโอซาก้าในประเทศญี่ปุ่น และนั่นเป็นแค่งานประจำของเขา แต่ที่จริงแล้วนายอิชิกูโร่เป็นที่โด่งดังในโลกอินเตอร์เน็ตอีกเช่นกัน

ลองค้นหาชื่อของเขาออนไลน์ และคุณจะเห็นนายอิชิกูโร่กับหุ่นยนต์แอนดรอยด์ที่เหมือนจริงอย่างไม่น่าเชื่อ ซึ่งบางตัวที่เขาประดิษฐ์ขึ้นมาได้เป็นเซเลบริตี้บนอินเตอร์เน็ตไปแล้ว ในบรรดาผลงานที่เขาผลิตคือหุ่นยนต์แอนดรอยด์ที่เหมือนจริงที่สุดในโลก รวมถึง Geminoid HI-1 หุ่นยนต์ที่เหมือนฝาแฝดของนายอิชิกูโร่ ทั้งสองมีความคล้ายคลึงกันมาก และยากที่จะแยกว่าใครเป็นใคร หลังจากได้พบเห็นหุ่นยนต์ที่มีความปราณีตเหล่านี้ จึงไม่น่าสงสัยเลยว่านายอิชิกูโร่เคยอยากเป็นจิตรกรสีน้ำมันมาก่อน

ความเป็นมนุษย์สำหรับหุ่นยนต์

นายอิชิกูโร่รู้สึกภาคภูมิใจในหุ่นยนต์ประดิษฐ์ของเขาที่มีความเป็นมนุษย์ - ทั้งท่าทางที่บอกกล่าวเป็นนัย การพูดการจาที่เป็นธรรมชาติ ลักษณะต่างๆที่สามารถแยกว่าพวกเราต่างจากหุ่นยนต์ นายอิชิกูโร่เชื่อว่าสิ่งที่เขาค้นพบนั้นสำคัญต่อเครื่องจักร AI ทั้งหมดที่มนุษย์จะต้องทำงานด้วยในอนาคต อย่างน้อยที่สุดก็สำหรับหุ่นยนต์แบบดั้งเดิม บริษัทเทคโนโลยีกำลังค้นหาวิธีการที่จะทำให้อุปกรณ์และเครื่องจักรในชีวิตประจำวันมีความเป็นมนุษย์มากขึ้น และนี่คือสิ่งที่นายอิชิกูโร่สามารถช่วยได้

“เครื่องจักรที่มีน้ำเสียงเป็นมิตรในวันนี้ สามารถเป็นใบหน้าที่เป็นมิตรในวันพรุ่งนี้”

Hiroshi Ishiguro with Geminoid

“ทุกอย่างจะมีความเหมือนมนุษย์มากขึ้นในอนาคต” เขากล่าวไว้ และยากที่จะไม่เห็นด้วยกับความคิดของเขา จากเครื่องใช้ในบ้านที่ใช้ทั่วไปอย่างไมโครเวฟ มันกลายเป็นเรื่องธรรมดามากขึ้นที่จะเห้นมนุษย์มีการโต้ตอบกับเครื่องจักร มากกว่าที่มันจะเป็นแค่เครื่องใช้งาน เครื่องจักรที่มีน้ำเสียงเป็นมิตรในวันนี้ สามารถเป็นใบหน้าที่เป็นมิตรในวันพรุ่งนี้

Hiroshi Ishiguro with Geminoid

เครื่องจักรที่มีความรู้สึก

ในขณะที่เขาสาธยายถึงอนาคตของ AI อย่างภาคภูมิใจ นายอิชิกูโร่ได้ชี้ถึงข้อสำคัญเกี่ยวกับคุณค่าของอารมณ์ความรู้สึกในปฎิกิริยาของมนุษย์/เครื่องจักร เขายกตัวอย่างแอพแผนที่ในสมาร์ทโฟนที่มีคำสั่งเสียงเพื่อบอกทิศทางให้กับคนขับรถ ที่มีน้ำเสียงนิ่งเฉยไร้อารมณ์เหมือนหุ่นยนค์ นายอิชิกูโร่กล่าวไว้ว่า เสียงที่นิ่งเฉยนั้น อาจไม่สามารถสื่อสารได้ตรงจุด เช่น เมื่อคนขับต้องเจอกับสถานการณ์เร่งด่วนที่ต้องเผชิญ

สำหรับนายอิชิกูโร่ หากคำสั่งเสียงนำทางพูดว่า “โปรดหยุด” ด้วยน้ำเสียงที่เคร่งเครียดและจริงจัง นั้นมีความหมายที่ชัดเจนกว่า - นั่นหมายความว่าคุณจะต้องลงมือทำตามสิ่งนั้นทันที แต่หากพูดด้วยน้ำเสียงที่สงบ แสดงว่ายังไม่มีสถานการณ์เร่งด่วนที่คุณไม่จำเป็นต้องทำตาม สำหรับนายอิชิกูโร่ อารมณ์ความรู้สึกสามารถสื่อสารข้อมูลที่สำคัญสำหรับผู้คน และเครื่องจักรของเราต้องเรียนรู้ที่จะสื่อสารกับเราด้วยคำพูดที่ชัดเจน และคำพูดที่บอกเป็นนัยเช่นกัน

หุ่นยนต์ตัวแรกของคุณ อาจจะไม่ใช่แค่หุ่นยนต์

การสนทนากับนายอิชิกูโร่เผยให้เห็นถึงความเข้าใจผิดที่ยิ่งใหญ่เกี่ยวกับหุ่นยนต์: นั่นคือความคิดที่หุ่นยนต์ตัวแรกที่เราโต้ตอบด้วย จะเป็นหุ่นยนต์โลหะไซบอร์กต้นแบบที่พวกเราเคยเห็นตามภาพยนตร์ต่างๆ ในความเป็นจริงนั้น หุ่นยนต์รุ่นแรกๆของพวกเราอาจจะเหมือนกับเครื่องจักรที่เราคุ้นเคยอยู่ทุกวันนี้ เพียงแค่เพิ่มปัญญาอัจฉริยะขึ้นเล็กน้อย และท่าทางที่มีความเป็นมนุษย์มากขึ้น

สำหรับเครื่องจักรที่เขาอยากทำให้มีความเป็นมนุษย์มากขึ้น? แน่นอน ต้องเป็นรถยนต์ เพราะสำหรับนายอิชิกูโร่ รถยนต์ก็เหมือน “หุ่นยนต์ตัวใหญ๋” ที่เราสามารถทำให้ “มีความเป็นมนุษย์มากขึ้น”

บางทีอุปสรรคที่ใหญ่ที่สุดสำหรับการให้มนุษย์ใช้งานรถยนต์อัตโนมัติก็คือความไว้ใจ มันจะน่ากลัวน้อยกว่าไหมหากคุณยอมให้รถยนต์ขับรถให้คุณเองในยามชั่วโมงเร่งด่วนถ้าหากรถยนต์นั้นมีใบหน้า เสียง และท่าทางที่สงบ? เวลาเท่านั้นที่จะบอกได้

 

 

คุณอาจสนใจบทความต่อไปนี้

TK

การขับขี่อัตโนมัติเป็นแค่จุดเริ่มต้นเท่านั้น ขอแนะนำ I2V

#Design

Nissan LEAF in city with driving sensor graphics

การขับขี่ที่ปลอดภัยในทุกรอบด้าน

#Nissan Intelligent Mobility