Toshihiro Hirai-SVP

โยโกฮามา, ประเทศญี่ปุ่น – เมื่อเร็ว ๆ นี้ นิสสันเปิดตัวแนวคิดใหม่ในการพัฒนาระบบขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า ซึ่งเรียกว่า “X-in-1” โดยภายใต้แนวคิดนี้ ส่วนประกอบหลักของระบบขับเคลื่อนแบบ EV และแบบ e-POWER จะมีการใช้ชิ้นส่วนร่วมกัน และปรับเป็นโมดูลต่างๆ ซึ่งจะส่งผลให้ต้นทุนการพัฒนาและการผลิตในปี 2569 จะลดลงถึง 30% เมื่อเทียบกับปี 2562

ด้วยแนวคิด X-in-1 นิสสันมีเป้าหมายที่จะเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของรถยนต์ EV และ e-POWER นิสสันได้พัฒนาระบบขับเคลื่อนต้นแบบ 3-in-1 โดยปรับมอเตอร์ อินเวอร์เตอร์ และตัวลดขนาด (reducer) ให้เป็นโมดูล ถูกวางแผนไว้สำหรับใช้ในรถยนต์ระบบขับเคลื่อนแบบ full EVs ขณะที่ระบบขับเคลื่อนต้นแบบ 5-in-1 ซึ่งเพิ่มครื่องกำเนิดไฟฟ้าและเครื่องเพิ่มกำลัง (increaser) เป็นโมดูลเพิ่มเติม มีการวางแผนสำหรับใช้ในระบบขับเคลื่อนแบบ e-POWER

แนวทาง “X-in-1” ซึ่งมีครอบคลุมทั้ง 3 ชิ้นส่วนหลัก หรือ 3-in-1 และแบบ 5 ชิ้นส่วนหลัก หรือ 5-in-1 และรุ่นอื่นๆ ที่เป็นไปได้ จะได้รับการพัฒนาเพื่อให้ส่วนประกอบหลักของระบบขับเคลื่อนทั้งแบบ EV และ แบบe-POWER สามารถดำเนินการผลิตต่อไปได้ในสายการผลิตเดียวกัน

3in1_01
3in1_02
5in1_01
5in1_02

ในปี พ.ศ. 2553 นิสสันเป็นผู้ผลิตรถยนต์รายแรกที่เปิดตลาดรถยนต์ EV ในเชิงพาณิชย์ คือ การนำเสนอ นิสสัน ลีฟ สู่ตลาดเพื่อยกระดับเทคโนโลยีการใช้พลังงานไฟฟ้าอย่างต่อเนื่อง นิสสันได้รับฟังลูกค้าผู้ใช้งานรถยนต์ EV ทั่วโลกด้วยความตั้งใจ ต่อมาในปี 2559 นิสสันได้เปิดตัวระบบขับเคลื่อนเทคโนโลยี e-POWER อันเป็นเอกลักษณ์ ด้วยการใช้เทคโนโลยีของรถยนต์แบบ EV ซึ่งให้ความเพลิดเพลินในการขับขี่เนื่องจากขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า 100% เช่นเดียวกับรถยนต์แบบ BEV (Battery Electric Vehicle)

EV_e-POWER_01
EV_e-POWER_02

แนวคิด X-in-1 ในการพัฒนาระบบขับเคลื่อนแบบไฟฟ้าให้ประโยชน์ดังต่อไปนี้:

- การใช้ชิ้นส่วนร่วมกันและการทำให้ส่วนประกอบหลักเป็นโมดูลจะช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตและลดต้นทุนรวมของการผลิตระบบขับเคลื่อนลงประมาณ 30% โดยเทียบกับปี 2562 ทั้งนี้นิสสัน ตั้งเป้าหมายให้ราคา รถยนต์ระบบ อี - พาวเวอร์ (e-POWER) เท่าเทียมกับรถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปภายใน (Internal Combustion Engine - ICE) ภายในปี 2569

- ขนาดและน้ำหนักที่ลดลงของเครื่องจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการขับขี่ยานพาหนะ และลดเสียงรบกวน รวมถึงการสั่นสะเทือนต่างๆที่เกิดขึ้น

- การใช้มอเตอร์ที่พัฒนาขึ้นใหม่จะลดการใช้แร่ธาตุหายาก (rare earth) ของโลกลงให้เหลือเพียง 1% หรือน้อยกว่าของน้ำหนักแม่เหล็ก

- การใช้ส่วนประกอบหลัก และเทคโนโลยีการควบคุมร่วมกัน จะมอบประสบการณ์การขับขี่ที่สนุกสนานซึ่งเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของรถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าของ นิสสัน

โทชิฮิโระ ฮิราอิ รองประธานอาวุโสฝ่ายวิศวกรรมระบบส่งกำลัง และรถยนต์ไฟฟ้า (Toshihiro Hirai - Senior Vice President, Powertrain & EV Engineering Development) กล่าวว่า "เราใช้ความเชี่ยวชาญและองค์ความรู้ของเราให้เกิดประโยชน์สูงสุดจากการพัฒนา และการผลิตเทคโนโลยีพลังงานไฟฟ้าที่ยาวนานกว่าทศวรรษ ด้วยนวัตกรรมของเราในการพัฒนาระบบขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า เราจะเดินหน้าสร้างคุณค่าแบบใหม่ให้กับลูกค้า และส่งมอบรถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าทั้ง BEV และ อี - พาวเวอร์ (e-POWER) ที่ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า 100% ให้แพร่หลายมากที่สุด”

ภายใต้วิสัยทัศน์ระยะยาว Nissan Ambition 2030 บริษัทมีเป้าหมายที่จะสนับสนุนกลุ่มผลิตภัณฑ์รถยนต์ไฟฟ้าใหม่ 27 รุ่น ซึ่งภายในปีงบประมาณ 2573 จะสามารถผลิตรถยนต์ไฟฟ้าได้ถึง 19 รุ่น ทั้งนี้นิสสันตั้งเป้าที่จะนำคุณค่าที่เป็นเอกลักษณ์ของรถยนต์พลังงานไฟฟ้าสู่กลุ่มลูกค้าให้หลากหลายที่สุด โดยแนะนำรุ่นที่เหมาะสมที่สุดให้กับแต่ละตลาดในแต่ละภูมิภาคกับช่วงเวลาที่เหมาะสม

X-in-1_Infographics
Electric Motor Production line_01
Electric Motor Production line_02
Electric Motor Production line_03

###

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ การบริการ และความมุ่งมั่นในการนำเสนอยานยนต์เพื่อความยั่งยืน สามารถติดตามได้ที่ nissan-global.com, Facebook, Instagram, Twitter, LinkedIn และรับชมวีดีโอล่าสุดที่ YouTube  

 

ข้อมูลเพิ่มเติม:

กมลชนก เจริญจินดารัตน์
ฝ่ายสื่อสารองค์กร
บริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด
โทร. 02-339-3400 ต่อ 4112-4114