โยโกฮามา ประเทศญี่ปุ่น (25 ตุลาคม 2560) – นิสสัน เผยโฉมไอเอ็มเอ็กซ์ (Nissan IMx) รถครอสโอเวอร์รุ่นต้นแบบพลังงานไฟฟ้า ผสานเทคโนโลยีขับขี่อัตโนมัติเต็มรูปแบบ และมีระยะทางขับเคลื่อนมากกว่า 600 กม. ภายในงานโตเกียว มอเตอร์โชว์

ยานยนต์ต้นแบบนวัตกรรมใหม่แสดงแนวคิดการพัฒนาสู่อนาคตของการขับเคลื่อนอัจฉริยะของนิสสัน(Nissan Intelligent Mobility) ซึ่งเป็นแนวทางที่นิสสันมุ่งเปลี่ยนแปลงรูปแบบพลังขับเคลื่อน การขับขี่ และการใช้งานรถยนต์ที่บูรณาการอย่างกลมกลืนกับสังคมไอเอ็มเอ็กซ์ได้รับการออกแบบเพื่อส่งเสริมการเชื่อมโยงระหว่างรถยนต์และผู้ขับขี่ที่มีความใกล้ชิดและไว้วางใจได้เพื่อการขับขี่ที่ปลอดภัยกว่า สะดวกสบายยิ่งขึ้น และสนุกสนานกว่าเดิม ด้วยการนำเสนอความเพลิดเพลินในการเดินทางอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน และความสามารถในการควบคุมโหมดการขับขี่ของตัวรถ นิสสัน ไอเอ็มเอ็กซ์มุ่งพลิกโฉมชีวิตประจำวันของผู้ขับขี่ไปอย่างสิ้นเชิง

“ไอเอ็มเอ็กซ์คือรถต้นแบบครอสโอเวอร์ไร้มลพิษที่สะท้อนอนาคตของการขับเคลื่อนอัจฉริยะของนิสสัน” แดเนียลเล สคิลลาชี รองประธานบริหาร ฝ่ายการตลาดและการขายโกลเบิล ธุรกิจยานยนต์ปราศจากมลพิษและแบตเตอรี่ กล่าว “ด้วยแนวคิดการขับเคลื่อนอัจฉริยะของนิสสัน เรามีความมุ่งมั่นเปลี่ยนแปลงรูปแบบการสื่อสารของผู้คนและรถยนต์ รวมถึงวิธีที่รถยนต์มีปฏิสัมพันธ์กับสังคมในอนาคตอันใกล้และในระยะยาว”

ทำให้การเดินทางสนุกสนานมากขึ้น: การขับขี่อัจฉริยะของนิสสัน

หัวใจหลักของคุณสมบัติทางเทคโนโลยีในไอเอ็มเอ็กซ์ คือ ProPILOT เวอร์ชั่นต่อไปที่นำเสนอการขับขี่อัตโนมัติเต็มรูปแบบ เมื่อเลือกใช้งานโหมด ProPILOT ระบบนี้จะเก็บพวงมาลัยไว้ในแดชบอร์ดและปรับเอนเบาะทุกที่นั่ง เพื่อให้ผู้ขับขี่มีพื้นที่มากขึ้นและทำให้ผู้โดยสารทุกที่นั่งได้รับความผ่อนคลาย และรื่นรมย์ตลอดการเดินทาง เมื่อปรับเลือกโหมดผู้ขับขี่ควบคุม (Manual) พวงมาลัยจะกลับสู่ตำแหน่งเดิมและเบาะที่นั่งก็จะปรับให้อยู่ในตำแหน่งเริ่มต้น มอบการควบคุมตัวรถคืนแก่ผู้ขับขี่อย่างราบรื่น

ยกระดับความสะดวกสบายและความพึงพอใจของการขับขี่พลังงานไฟฟ้า:

พลังขับเคลื่อนอัจฉริยะของนิสสัน

รถต้นแบบ นิสสัน ไอเอ็มเอ็กซ์ ไร้มลพิษใช้แพลทฟอร์มรถยนต์พลังงานไฟฟ้ารุ่นใหม่ของนิสสันที่ได้รับการออกแบบให้มีประสิทธิภาพสูงสุด ช่วยให้พื้นห้องโดยสารแบนราบ จึงทำให้ภายในห้องโดยสารมีเนื้อที่ กว้างขวางและเพิ่มสมรรถนะการขับขี่ ด้วยจุดศูนย์ถ่วงที่ต่ำ แชสซีส์ของตัวรถมอบการควบคุมที่เฉียบคมซึ่งจะเป็นการสร้างมาตรฐานใหม่ในเซกเมนท์รถครอสโอเวอร์ ระบบขับเคลื่อนที่ทรงพลังและเงียบสงบช่วยเพิ่มความเร้าใจในการขับขี่ ไอเอ็มเอ็กซ์ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูงสองตัวซึงติดตั้งที่ด้านหน้าและด้านหลัง จึงใช้ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ มีพละกำลังรวมทั้งหมด 320 กิโลวัตต์ และแรงบิดมหาศาล 700 นิวตันเมตรที่ได้จากแบตเตอรี่กำลังสูงซึ่งได้รับการออกแบบใหม่ทั้งหมดและปรับระบบวิศวกรรมใหม่เพื่อเพิ่มความหนาแน่นของพลังงาน แบตเตอรี่รุ่นใหม่ช่วยให้รถต้นแบบรุ่นนี้โลดแล่นได้ไกลกว่า 600 กม. จากการประจุชาร์จไฟหนึ่งครั้ง ดังนั้น ผู้ขับขี่และผู้โดยสารจึงสามารถเพลิดเพลินกับการเดินทางได้โดยปราศจากความกังวลเรื่องการประจุชาร์จไฟ

กลมกลืนเป็นส่วนหนึ่งของโครงสร้างพื้นฐานทางสังคม: การบูรณการอย่างอัจฉริยะของนิสสัน

นิสสัน ไอเอ็มเอ็กซ์ ยังช่วยสนับสนุนโครงสร้างพื้นฐานทางสังคมได้อย่างที่ไม่เคยมีรถยนต์รุ่นใดทำได้มาก่อน อาทิ เมื่อตัวรถเดินทางส่งเจ้าของรถไปถึงสนามบินเสร็จสิ้นแล้ว ไอเอ็มเอ็กซ์สามารถเคลื่อนไปจอดได้เองในที่จอดที่ตัวรถสามารถเชื่อมต่อเข้ากับโครงข่ายไฟฟ้าและทำหน้าที่เป็นแหล่งกำเนิดไฟฟ้า “เสมือนจริง” ด้วยการคืนพลังงานไฟฟ้ากลับสู่โครงข่ายดังกล่าว ซึ่งเป็นคุณสมบัติใหม่ของการคืนพลังงานไฟฟ้าจากรถยนต์สู่บ้านเรือนและจากรถยนต์สู่อาคาร เมื่อเจ้าของรถต้องการใช้งานตัวรถ ไอเอ็มเอ็กซ์สามารถเคลื่อนที่ไปรับได้ที่อาคารผู้โดยสารของสนามบินและมุ่งตรงกลับบ้าน กระบวนการทั้งหมดดำเนินไปได้อย่างเต็มประสิทธิภาพด้วยแบตเตอรี่ที่มีศักยภาพสูงขึ้นและเทคโนโลยีการเชื่อมต่อในรถยนต์ อย่าง Seamless Autonomous Mobility

ปรัชญาใหม่ของการออกแบบรถยนต์พลังงานไฟฟ้าเพื่อยุคแห่งการขับขี่อัตโนมัติ

จนถึงปัจจุบัน รถยนต์ได้รับการออกแบบให้มีความแตกต่างอย่างชัดเจนระหว่างตัวถังภายนอกและภายในห้องโดยสาร การออกแบบภายนอกมอบความรู้สึกด้านความปลอดภัยจากภายนอก ขณะที่การออกแบบภายในช่วยให้ผู้ขับขี่มีสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมเพื่อสมาธิในการขับขี่  ความแตกต่างบนพื้นฐานการใช้งานดังกล่าวมีแนวโน้มที่จะเปลี่ยนแปลงไปด้วยการมาถึงของรถยนต์ขับขี่อัตโนมัติเต็มรูปแบบ นักออกแบบของนิสสัน มุ่งสร้างนิยามใหม่ของพื้นที่ในห้องโดยสารของไอเอ็มเอ็กซ์ด้วยการสร้างสรรค์ความรู้สึกที่เปิดกว้าง พร้อมกับรักษาความเป็นส่วนตัว ซึ่งการทำเช่นนั้นได้ นักออกแบบของนิสสันพยายามสร้างสรรค์พื้นที่ที่เชื่อมต่อระหว่างภายในและภายนอกของรถต้นแบบรุ่นนี้ 

ดีไซเนอร์ของนิสสันยังต้องการถ่ายทอดบุคลิกสำคัญของรถยนต์พลังงานไฟฟ้า นั่นคือความเงียบและความนุ่มนวลด้วยไฟส่องสว่าง แต่ก็เปี่ยมด้วยความทรงพลังและความปราดเปรียว โดยได้แรงบันดาลใจมาจากแนวคิด ma ของญี่ปุ่นซึ่งเป็นความรู้สึกด้านพื้นที่และเวลา และ wa (ความกลมกลืน) แสดงออกถึงการดำรงอยู่ร่วมกันอย่างลงตัวของแนวคิดสองด้านที่ตรงข้ามกันอย่าง “การสงบนิ่ง” และ “การเคลื่อนไหว”

การออกแบบภายนอก: แสดงบุคลิกที่มีเอกลักษณ์ของรถยนต์พลังงานไฟฟ้า

การออกแบบไอเอ็มเอ็กซ์ ถ่ายทอดลักษณะที่สะอาดตาและสปอร์ตของรถยนต์พลังงานไฟฟ้าด้วยการผนวกรวมการออกแบบเอกลักษณ์ของนิสสัน ตั้งแต่กระจังหน้า V-motion ที่คุ้นตา เส้นสายด้านข้างที่พาดขึ้นและไหลผ่านจากฝากระโปรงหน้าผ่านสู่ด้านท้ายรถ ซุ้มล้อหน้าที่มีพื้นที่กว้างขวางและรูปทรงโดดเด่นเริ่มต้นจากกระจังหน้าและขยายผ่านไปอย่างลื่นไหลสู่ด้านข้างตัวถัง ทำให้เกิดความรู้สึกทับซ้อนด้วยชั้นเลเยอร์ โทนสีแดง (vermillion) ตัดสายตาอย่างมีชีวิตชีวากับสีตัวถังขาวมุกซึ่งได้แรงบันดาลใจจาก uramasari อันเป็นการพรรณนาถึงความงดงามและความรุ่มรวยที่พบเห็นได้ที่ด้านในชุดกิโมโนตามประเพณีแบบญี่ปุ่น

การออกแบบภายใน: กว้างขวางและผ่อนคลาย มุ่งเน้นความเรียบง่าย

ห้องโดยสารของรถต้นแบบไอเอ็มเอ็กซ์ ถอดแบบมาจากแนวคิดพื้นฐานของการจัดวางเนื้อที่ที่สามารถพบได้ในบ้านแบบญี่ปุ่นดั้งเดิมที่ให้ความรู้สึกโปร่งโล่ง 

แผงการทำงานภายในตัวรถแบบพาโนรามิกระบบ OLED แสดงภาพด้านนอกตัวรถเป็นพื้นหลัง ขณะที่หน้าจอแพทเทิร์นลายไม้ติดตั้งแยกส่วนอยู่ต่ำกว่าแผงการทำงาน และโค้งรับกับการแผงประตูด้านใน ทำให้ผู้โดยสารทุกที่นั่งได้รับความรู้สึกอ่อนโยนจากภายนอกคล้ายกับแผงกั้นห้อง shoji ที่ทำด้วยกระดาษของญี่ปุ่น

เบาะที่นั่งพิมพ์สลักด้วยเครื่องตัดเลเซอร์ทำให้เกิดแพทเทิร์น katanagare ทรงสามเหลี่ยมทแยงมุม ขณะที่หมอนรองศีรษะเป็นลวดลาย kumiki หรือบล็อกไม้ล็อกเข้ารูปแบบญี่ปุ่นทำด้วยวัสดุซิลิโคนที่นุ่มนวลและตัวโครงผลิตด้วยเครื่องพิมพ์สามมิติ

เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence) ช่วยให้ผู้ขับขี่ควบคุมแผงการทำงานด้วยการเคลื่อนไหวของตาและการขยับมือเพื่อสั่งการ อินเตอร์เฟซที่ใช้งานง่ายนี้ทำให้มีสวิทช์และปุ่มควบคุมแบบดั้งเดิมน้อยลง ห้องโดยสารของไอเอ็มเอ็กซ์จึงมีความเรียบง่ายและทรงประสิทธิภาพ พร้อมกับให้ความสะดวกสบายสูงสุด

 

###

 

เกี่ยวกับ บริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด

นิสสัน ก่อตั้งในประเทศญี่ปุ่น ตั้งแต่ปี พ.ศ 2476 โดยมีนโยบายหลักที่จะนำเสนอนวัตกรรมที่สร้างความตื่นเต้นเร้าใจให้กับลูกค้า (Innovation that Excites) ทำให้ลูกค้าได้รับความสุขกับรถของนิสสัน ขณะเดียวกันนิสสันยังต้องการปรับปรุงคุณภาพชีวิตให้กับคนในสังคม โดยนิสสันได้ประกาศเป้าหมายในการมีส่วนร่วมลดค่ามลพิษให้เป็นศูนย์ และลดการสูญเสียบนท้องถนนให้เป็นศูนย์  นิสสันจึงมุ่งมั่นพัฒนาเทคโนโลยีการขับเคลื่อนที่อัจฉริยะ โดยมีแผนที่จะแนะนำระบบขับขี่อัตโนมัติ ในรถยนต์รุ่นหลักในภูมิภาคต่างๆ  เพื่อเพิ่มความปลอดภัยบนท้องถนนไปพร้อมๆ กับการสร้างความสุขให้กับผู้ขับขี่   สำหรับประเทศไทยนิสสันเริ่มดำเนินธุรกิจ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2495 ปัจจุบันมีบริษัทในเครือ 5 แห่ง และฐานการผลิตรถยนต์รวม 2 แห่ง   มีเครือข่ายโชว์รูมและศูนย์บริการมากกว่า 200 แห่ง โดยมีผลิตภัณฑ์รถยนต์ตอบสนองลูกค้าทุกเซกเมนต์รวม 10 รุ่น  ไม่ว่าจะเป็น รถยนต์อีโค คาร์  รถยนต์อเนกประสงค์ รถยนต์พรีเมี่ยมซีดาน  รถกระบะ และรถตู้  

เกี่ยวกับ บริษัท นิสสัน มอเตอร์ จำกัด

นิสสัน เป็นผู้ผลิตรถยนต์ระดับโลกที่จำหน่ายรถยนต์มากกว่า 60 รุ่นภายใต้แบรนด์นิสสัน อินฟินิตี้ และดัทสัน ในปีงบประมาณ 2559 บริษัทฯ มียอดขายรถยนต์มากกว่า 5.63 ล้านคันทั่วโลก สร้างรายได้มูลค่า 11.72 ล้านล้านเยน โดยมี นิสสัน ลีฟ เป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่ขายดีที่สุดในประวัติศาสตร์ สำนักงานใหญ่ของนิสสันที่ตั้งอยู่ที่เมืองโยโกฮามา ประเทศญี่ปุ่น แบ่งเขตปฏิบัติการออกเป็น 6 พื้นที่ ประกอบไปด้วย เอเชียและโอเชียเนีย แอฟริกา ตะวันออกกลางและอินเดีย จีน ยุโรป ละตินอเมริกา และอเมริกาเหนือ นิสสันมีพนักงานทั่วโลกจำนวน 247,500 คน ทั้งยังเป็นหุ้นส่วนทางธุรกิจกับ เรโนลต์ ผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติฝรั่งเศส ภายใต้พันธมิตร เรโนลต์ – นิสสัน ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2542 ในปี พ.ศ. 2559 นิสสันได้เข้าซื้อหุ้นเป็นจำนวน 34% จากมิตซูบิชิ จนได้เข้าร่วมพันธมิตรเป็นสมาชิกรายที่สาม ปัจจุบันเรโนลต์ นิสสัน และมิตซูบิชิ มอเตอร์สเป็นพันธมิตรธุรกิจยานยนต์ที่ใหญ่ที่สุดและมียอดขายรวมกันสูงระดับ 10 ล้านคันต่อปี

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ การบริการ และการขนส่งเพื่อความยั่งยืน สามารถติดตามข้อมูลข่าวสารผ่านช่องทาง nissan-global.com Facebook, Instagram, Twitter and LinkedInพร้อมรับชมวีดีโอล่าสุดได้ที่ YouTube