บริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด พร้อมสื่อมวลชนร่วมสืบสานแนวพระราชดำริและพระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ในหลวงรัชกาลที่ 9 ในโครงการ “แค่ใจก็เพียงพอ ตามพ่อที่พอเพียง” ประเดิมกิจกรรมแรกด้วยแนวคิด “เศรษฐกิจพอเพียง: การอนุรักษ์โลกทำได้ง่ายๆ” โดยเป็นการเรียนรู้การดำเนินชีวิตตามปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงและการทำเกษตรกรรมอย่างยั่งยืนของโครงการ 9101 ตามรอยเท้าพ่อ ภายใต้ร่มพระบารมี โดยนายประกอบ ศรีวะรมย์ เกษตรกรต้นแบบ

“การเดินทางครั้งนี้สื่อมวลชนจะได้ร่วมทดสอบนิสสันโน๊ต รถยนต์อันเป็นผู้นำเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ นิสสัน อินเทลลิเจน โมบิลิตี้ นิสสัน อัลเมร่าและนิสสัน มาร์ช อีโคคาร์ที่ได้รับความนิยมสูงที่สุดตลอดกาล โดยรถยนต์กลุ่มนี้กำลังเป็นที่นิยมเป็นอย่างสูงในกลุ่มลูกค้าจากสมรรถนะการประหยัดน้ำมันเฉลี่ย 20 กิโลเมตร ต่อลิตร และมีอัตราการปล่อย CO2 ที่ 120 กรัมต่อกิโลเมตร ด้วยพื้นที่ในห้องโดยสารที่กว้างขวาง สะดวกสบาย อีกทั้งยังมาพร้อมเทคโนโลยีอัฉจริยะมากมายด้านความปลอดภัยอันทันสมัยรายเดียวในกลุ่มรถยนต์กลุ่มนี้ ซึ่งช่วยให้การขับขี่สะดวกสบายมากยิ่งขึ้นอีกด้วย”

 

นิสสันโน๊ต

นายปีเตอร์ แกลลี่ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่สายงานสื่อสารองค์กร นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าว “นิสสัน โน๊ต ได้รับกระแสการตอบรับเป็นอย่างดีเพราะมีเทคโนโลยีและมีคุณสมบัติอัจฉริยะ นิสสัน อินเทลลิ-เจน โมบิลิตี้ ที่หลากหลาย อาทิ ระบบเตือนเมื่อรถออกนอกเส้นทาง (Lane Departure Warning) กล้องอัจฉริยะมองภาพรอบทิศทาง (Around View Monitor) และระบบช่วยเบรกอัจฉริยะ (Forward Emergency Braking)"

"นอกจากนี้ นิสสัน โน๊ต ยังได้รับการออกแบบให้มีความสวยโฉบเฉี่ยว แต่มีพื้นที่ภายในห้องโดยสารกว้างขวาง นั่งสบาย เบาะนั่งสามารถปรับเปลี่ยนได้หลายรูปแบบเพื่อตอบรับความต้องการของลูกค้าได้อย่างครบถ้วน” นายปีเตอร์ แกลลี่ เสริม 

สำหรับทริปแรกของโครงการฯ ที่ได้จัดขึ้นภายใต้แนวคิด “เศรษฐกิจพอเพียง: การอนุรักษ์โลกทำได้ง่ายๆ” นิสสันได้จัดสรรรถยนต์ให้เหมาะสมกับการเดินทางเริ่มต้นจากกรุงเทพฯสู่จุดหมายที่อำเภอปากพลี จังหวัดนครนายก เพื่อนำสื่อมวลชนเข้าเยี่ยมชมโครงการ 9101 ตามรอยเท้าพ่อภายใต้ร่มพระบารมี โดยมีนายประกอบ ศรีวะรมย์ ดำรงอาชีพเกษตรกรในพื้นที่มานานหลายปี ได้บุกเบิกพื้นที่รกร้างในอาณาบริเวณกว่า 5 ไร่เพื่อดำเนินการจัดสรรเป็นไร่นาสวนผสมแบ่งเนื้อที่เป็นสัดส่วนที่ชัดเจน มีทั้งอาคารผลิตปุ๋ย โรงสี แปลงปลูกผักและไม้ผล ขุดบ่อเลี้ยงปลา และโรงเรือนเลี้ยงสัตว์ โดยยึดหลักเกษตรทฤษฎีใหม่ ซึ่งทั้งหมดดำเนินตามปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง และด้วยการน้อมนำแนวทางพระราชดำริ นายประกอบ ศรีวะรมย์ มีรายได้จากการทำการเกษตรและปศุสัตว์เหลือเก็บเป็นเงินออมสำหรับครอบครัวและยังสามารถพัฒนาพื้นที่ให้เป็นแหล่งเรียนรู้สำหรับเกษตรกรในพื้นที่ข้างเคียงเพื่อใช้ประโยชน์อย่างยั่งยืนต่อไปได้อีกด้วย 

 

นิสสันโน๊ต

 “ผมน้อมนำปรัชญาเรื่องเศรษฐกิจพอเพียงของในหลวงรัชกาลที่ 9 มาประยุกต์ใช้ทางการเกษตร เริ่มต้นจากการจัดสรรพื้นที่ทำปุ๋ยใช้เองจากวัสดุที่มีในพื้นที่ ซึ่งสามารถรักษาสภาพแวดล้อม สร้างความสมดุลทางธรรมชาติ ทั้งยังลดรายจ่ายในครัวเรือน และเมื่อเราทำสำเร็จในระดับหนึ่งแล้ว เรายังสามารถถ่ายทอดความรู้ให้แก่เกษตรกรในชุมชนได้สามารถลงมือปฏิบัติตามได้อีกด้วย” นายประกอบ ศรีวะรมย์กล่าว

นายปีเตอร์ แกลลี่ ได้กล่าวเสริมว่า “สื่อมวลชนไม่เพียงได้สัมผัสวิถีชีวิตของเกษตรกรที่เป็นบุคคลต้นแบบในการน้อมนำพระราชดำริมาปฏิบัติใช้จริงเท่านั้น ยังมีโอกาสได้เรียนรู้หลักวิถีการเกษตรพอเพียงและพึ่งพาตนเองหลากหลายประเภท เช่นการร่วมทำกิจกรรมพิเศษโดยการนำยางรถยนต์เหลือใช้มารีไซเคิลเป็นกระถางเลี้ยงไส้เดือนเพื่อซึ่งถือเป็นเคล็ดลับที่สำคัญของฟาร์มในการผลิตปุ๋ยและเตรียมดินที่ดีสำหรับการเกษตรกรรมมากมาย นิสสันภูมิใจนำเสนอการเดินทางครั้งนี้ซึ่งถูกจัดขึ้นมาเพื่อพบกับบุคคลต้นแบบและเรียนรู้ในการดำเนินกิจกรรมเพื่อสืบสานพระราชดำริในโครงการ แค่ใจก็เพียงพอ ตามพ่อที่เพียงพอของนิสสันจะมีขึ้นระหว่างเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2560 ถึงเดือนมีนาคม พ.ศ. 2561” 

 

ขอขอบคุณภาพประกอบสวยๆ ครั้งนี้ จากกล้องโกโปร โดยบริษัท เมนทาแกรม จำกัด และขอบคุณบริษัท เชลล์ (ประเทศไทย) จำกัดที่เอื้อเฟื้อน้ำมันเชื้อเพลิงประสิทธิภาพสูงตลอดการเดินทาง