บริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ร่วมสืบสานพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชบรมนาถบพิตรในหลวง รัชกาลที่ 9 ผ่านโครงการ “แค่ใจก็เพียงพอ ตามพ่อที่พอเพียง” เดินทางพบกับ คุณแสงเดือน ชัยเลิศ บุคคลต้นแบบของโครงการฯผู้ร่วมก่อตั้ง ศูนย์อภิบาลช้างในจังหวัดเชียงใหม่ศูนย์อภิบาลช้าง ตั้งอยู่บนดอยม่อนเงาะ จึงต้องใช้รถกระบะพันธุ์แกร่งรุ่นล่าสุดอย่าง นิสสัน นาวารา ใหม่ รุ่นปี 2018 ในการเดินทางเข้าถึงจุดหมายปลายทางในทริปนี้

นิสสันประเทศไทย พร้อมสื่อมวลชนเข้าร่วมการเดินทางครั้งสำคัญภายใต้โครงการฯ เพื่อน้อมนำและสืบสานพระราชดำริด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรสัตว์ป่า การดูแลช้างซึ่งถือเป็นสัตว์ประจำชาติ และการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน ศูนย์อภิบาลช้างแห่งนี้ได้รับแรงบันดาลใจจากสิ่งที่ในหลวงรัชกาลที่ื 9 ได้ทำ และได้สอนไว้ โดยคุณแสงเดือน ชัยเลิศ บุคคลต้นแบบของโครงการฯ กล่าวด้วยความภาคภูมิใจว่า“ดิฉันเติบโตมาบนยอดเขาสูงได้รับฟังข่าวของพระองค์ท่านมากมาย เมื่อในหลวงรัชกาลที่ 9 เสด็จฯขึ้นมาถึงบนพื้นที่ห่างไกลเช่นนี้เมื่อครั้งที่ดิฉันยังเด็ก ดิฉันสงสัยว่าทำไมพระองค์ถึงต้องเดินทางขึ้นมาบนดอยที่กันดาร  แต่เมื่อเวลาผ่านไป ดิฉันก็รู้ว่าพระองค์เดินทางขึ้นดอยเพื่อช่วยเหลือพสกนิกรของพระองค์โดยไม่หวังผลตอบแทนอะไรเลย”

 

นิสสันนาวารา

“พระองค์ทรงเสียสละเวลาและความสุขส่วนพระองค์เพื่อประชาชนทุกคน พระองค์ต้องการให้พวกเรามีชีวิตที่ดีขึ้นพระองค์ทรงเป็นแรงบันดาลใจให้ดิฉันมีความมุมานะทำงานเพื่อคนอื่น ถึงแม้จะต้องเผชิญกับอุปสรรคมากมาย แต่ดิฉันระลึกถึงพระองค์ท่านอยู่เสมอและดำเนินตามรอยทางของพระองค์ด้วยการทำงานที่มีความบริสุทธิ์ใจและมีความมุ่งมั่นเพื่อยืดหยัดอยู่ได้ด้วยตัวเองและมีการพัฒนาอย่างยั่งยืน” คุณแสงเดือนกล่าวเสริม

ช้างส่วนใหญ่ในศูนย์แห่งนี้ถูกทำทารุณทั้งทางร่างกายและจิตใจ “สภาพความเป็นอยู่ที่ทารุณทำให้เกิดบาดแผลลึกอย่างถาวรอยู่ในหัวใจของช้างเหล่านี้ ช้างส่วนใหญ่เดินไปมาแบบไร้จิตวิญญาณด้วยแววตาที่ว่างเปล่า อันเป็นผลมาจากการใช้งานหนัก การทำร้าย ถูกเพิกเฉยและไม่ได้รับการดูแลรักษาอย่างถูกต้อง” คุณแสงเดือนเผย 

เพื่อให้ครอบคลุมค่าใช้จ่ายในการดูแลสัตว์ที่พิการเกือบ 1,000 ตัว ประกอบด้วยช้าง 75 ตัวกระบือ 150 - 170 ตัว สุนัข 500 - 600 ตัว  และแมว 250 ตัว คุณแสงเดือน ชัยเลิศ และเจ้าหน้าที่ประจำศูนย์แห่งนี้จึงขยายขอบเขตภารกิจของศูนย์อภิบาลช้าง ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเพื่อเปิดโอกาสให้มีอาสาสมัครเข้ามาช่วยเหลือและรับการบริจาคจากผู้สนใจทั่วโลก 

เมื่อศูนย์อภิบาลช้างมีชื่อเสียงทั่วโลก คุณแสงเดือน ผู้เปรียบเสมือน “แม่ของช้าง” ที่ได้ถูกเลือกและเชิดชูให้เป็นอีกหนึ่งบุคคลต้นแบบของโครงการ “แค่ใจก็เพียงพอ ตามพ่อที่พอเพียง” และยังได้เป็นหนึ่งในบุคคลที่ได้รับรางวัล “ฮีโร่ ออฟ เอเชีย” จากนิตยสารไทม์ จากการอุทิศตนในการดูแลเยียวยาช้าง

นิสสันนาวารา

“พนักงานทุกคนของเรารู้สึกภูมิใจเป็นอย่างมากที่ได้ดำเนินโครงการ “แค่ใจก็เพียงพอ ตามพ่อที่พอเพียง” ซึ่งทำให้พวกเราได้มีโอกาสสนับสนุนบุคคลที่น่าเชิดชู และเป็นแบบอย่างให้คนไทยทุกคนในการน้อมนำคำสอนของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชบรมนาถบพิตร ในหลวงรัชกาลที่ 9 มาปฎิบัติใช้จนประสบความสำเร็จ” คุณสุรีทิพย์ ละอองทอง โฉมทองดี รองประธาน สายงานการตลาด บริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าว

“คุณแสงเดือนและบุคคลต้นแบบท่านอื่นๆ ในโครงการนี้ยังจุดประกายให้พวกเราทุกคนและเป็นแบบอย่างที่ยอดเยี่ยมที่แสดงให้เห็นว่าการมีเป้าหมายชีวิตและดำรงตนตามคำสอนของพระองค์จะช่วยยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ของเราทุกคนได้” คุณสุรีทิพย์ กล่าวเสริม

ศูนย์อภิบาลช้างก่อตั้งประมาณปี พ.ศ. 2533  ไม่เพียงแค่ทำหน้าที่ดูแล และอนุรักษ์ช้างจนเป็นเหมือนบ้านหลังสุดท้ายของช้างเร่ร่อนเท่านั้น แต่ยังได้พัฒนาขึ้นมาเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ที่มีอาสาสมัครจากทั่วโลก มาขอเข้ามาร่วมกันดูแลช่วยเหลือสัตว์คู่บ้านคู่เมืองของไทย ศูนย์อภิบาลช้างแห่งนี้จึงมีการพัฒนาอย่างยั่งยืนด้วยการใช้แนวทางการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติควบคู่การส่งเสริมการท่องเที่ยวตามพระราชดำรัสของในหลวงรัชกาลที่ 9

สำหรับการเดินทางครั้งนี้ เริ่มต้นขึ้นจากศูนย์บริการสยามนิสสัน เชียงใหม่ โดยใช้ นิสสัน นาวารา ใหม่ รุ่นปี 2018  เพื่อนำทางไปยังอำเภอแม่แตงวิ่งสู่ทางหลวงชนบท 3052 ขึ้นไปยังบริเวณยอดดอยม่อนเงาะและด้วยพาหนะที่เหมาะสม อย่างนิสสัน นาวารา ใหม่ ปิกอัพไฮเทคที่มากด้วยพลัง มีขุมพลังที่ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบชาร์จ ขนาด 2.5 ลิตร ให้กำลังสูงสุดที่ 190 190 และ 163 แรงม้า ระบบส่งกำลังมีทั้งเกียร์อัตโนมัติ 7 สปีด และเกียร์ธรรมดา 6 สปีด จึงสามารถขับขี่ไปตลอดเส้นทางได้อย่างคล่องแคล่วและมั่นใจตามเส้นทางที่เป็นเนินเขา เนื่องจากเส้นทางบนยอดดอยแคบมากที่จะกลับรถกระบะที่มีความยาวของตัวถัง แต่นั่นไม่ใช่ปัญหาสำหรับรถกระบะที่มาพร้อมเทคโนโลยีการเคลื่อนที่อัจฉริยะ หรือ นิสสัน อินเทลลิ-เจนท์ โมบิลิตี้ (Nissan Intelligent Mobility) อย่าง  กล้องอัจฉริยะมองภาพรอบทิศทาง (Intelligent Around View Monitor หรือ AVM)  ทำให้การเดินทางไปในพื้นที่ที่มีข้อจำกัดมากมายเป็นไปอย่างราบรื่น สร้างความมั่นใจให้กับผู้ขับขี่มากขึ้น 

เมื่อถึงศูนย์พัฒนาเด็กเล็กดอยม่อนเงาะ สื่อมวลชนพร้อมผู้เข้าร่วมทั้งหมดจะส่งมอบอุปกรณ์การเรียนการสอนให้แก่คุณครูที่ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กดอยม่อนเงาะซึ่งเป็นองค์กรที่ไม่แสวงผลกำไรในจังหวัดเชียงใหม่และให้ความรู้แก่นักเรียนเด็กเล็กว่า 21 คน เมื่อออกเดินทางต่อเข้าสู่ช่วงเส้นทางลงเขาและสื่อมวลชนต้องขับลัดเลาะไปตามเส้นทางเพื่อนำผลไม้นานาพันธุ์ปลอดสารพิษที่สามารถใช้เป็นอาหารช้าง จึงเป็นการทดสอบสมรรถนะและความแกร่งด้านการบรรทุกหนัก รวมถึงเทคโนโลยีล้ำสมัยต่างๆของนาวารา ได้เป็นอย่างดี อาทิ ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว (VDC) ระบบช่วยการออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน (HSA) และระบบช่วยควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน (HDC) ระบบอัจฉริยะเพื่อการขับขี่เหล่านี้ไม่เพียงมอบความสะดวกสบาย แต่ยังให้ความปลอดภัยต่อผู้ขับขี่และผู้โดยสารทุกคนอีกด้วย

ภายใต้โครงการ “แค่ใจก็เพียงพอ ตามพ่อที่พอเพียง” นิสสันมีความภูมิใจที่มีส่วนร่วมในการนำเสนอและอำนวยความสะดวกในทุกๆการเดินทางซึ่งถูกจัดขึ้นมาเพื่อพบกับบุคคลต้นแบบ อาทิ คุณแสงเดือน เพื่อเผยแพร่และเรียนรู้เรื่องราวของการดำเนินกิจกรรมเพื่อสืบสานพระราชดำริในการทำเพื่อสังคมโดยไม่หวังผลตอบแทน

ขอขอบคุณภาพประกอบสวยๆ ครั้งนี้ จากกล้องโกโปร โดยบริษัทเมนทาแกรมจำกัด และขอบคุณบริษัท เชลล์ (ประเทศไทย) จำกัดที่เอื้อเฟื้อน้ำมันเชื้อเพลิงประสิทธิภาพสูงตลอดการเดินทาง โครงการฯได้เริ่มต้นขึ้นในเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2560 ที่ผ่านมา จนถึงเดือนมีนาคม พ.ศ. 2561